Pink Transparent Star

วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ใบงานที่ 5 บทความสำหรับโครงงานคอมพิวเตอร์

ทำไมเราต้อง “หาว” ตามกัน❤️❤️
ที่มาภาพ : https://br.pinterest.com/pin/

       หาว (yawn) "หาวตามคนอื่น" เป็นคำถามที่ยังรอคำตอบว่าทำไม? มีหลายสมมุติฐานที่พยายามตอบเรื่องนี้ สมมุติฐานทางการแพทย์ก็จะต้องมีข้อมูลสนับสนุน มีการทดลอง แต่ก็ยังไม่สามารถตอบบางภาวะได้ จึงไม่สามารถสรุปชัดเจนได้ว่า เราหาวกันทำไม และหาวตามคนอื่นทำไม??

        "การหาว" เป็นสิ่งที่เจอได้ในมนุษย์และสัตว์อีกหลายชนิด เช่นลิง สุนัข แมว หนู เสือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม การหาวไม่ใช่การอ้าปากเฉยๆ การหาวมีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อหลายมัดค่ะ เริ่มต้นจากปากอ้าขึ้น ขากรรไกรกว้างออก หายใจเข้า ถ้าหาวได้มากๆก็ตาปิด น้ำตาไหลได้ มีการตึงของเยื่อแก้วหู และหายใจออก ไม่ใช่อ้าปากเฉยๆ
การหาวเกิดขึ้นเมื่อไหร่บ้าง ?
การหาวเกิดขึ้นได้ในหลายเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเวลาง่วงหรือเพิ่งตื่น  เมื่อรู้สึกเบื่อ เหนื่อย เครียด หรือการหาวตามกัน ไม่ว่าจะเห็นคนหาว คุยโทรศัพท์กับเพื่อนแล้วเพื่อนหาว เราก็หาวตามโดยที่เรายังไม่รู้สึกง่วง หรือเบื่อ เรียกว่า "contagious yawn"
มีการศึกษาพบว่าเราเริ่มหาวกันตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ มีการถ่ายภาพสแกน 4 มิติ พบว่าในเด็กทารกในครรภ์ อายุครรภ์ตั้งแต่ 20-24 สัปดาห์ (5 เดือน) ก็ “ทำท่าเหมือนหาว" มีการศึกษามุมของการอ้าปาก และระยะเวลาตั้งแต่อ้าปากจนหุบปาก สรุปจากงานวิจัยพบว่าทารกในครรภ์หาวโดยเฉลี่ยถึง 12 ครั้ง ภายใน1 ชั่วโมง

ขอบคุณคลิปจาก : https://www.youtube.com/watch?time_continue=6&v=XmJ9Q1aDEz4
ทำไมต้องหาว?

    มื่อก่อนนี้เราจะพูดถึงเรื่องการแลกเปลี่ยนก๊าซว่า การหาวเกิดขึ้นเมื่อมีการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในร่างกายมากและต้องการจะได้รับก๊าซออกซิเจนมาเพิ่ม แต่ในการวิจัยปัจจุบันพบว่า"ในช่วงที่มีการหาวไม่ได้มีก๊าซออกซิเจนมากขึ้น และไม่ได้มีการขับคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากขึ้นแต่อย่างใด" จึงเกิดข้อสมมุติฐานที่อาจเป็นไปได้สำหรับการหาว ดังนี้

1. การหาวอาจจะเกิดขึ้นเพื่อการยืดเส้นยืดสายของกล้ามเนื้อที่ลิ้นและลำคอ เนื่องจากเราใช้กล้ามเนื้อที่มากทั้งพูด รับประทานอาหาร และหายใจ เมื่อมีการหาวก็เหมือนได้มีการยืดคลายตัวของกล้ามเนื้อ บ้างก็ว่าทำให้มีการไหลเวียนของน้ำเหลืองที่ดีขึ้น
2. การกระสับกระส่าย เพราะมีบางการศึกษาพบว่า หลังจากการหาวจะช่วยให้
คนที่กระสับกระส่ายตื่นตัวขึ้น
3. มีการศึกษาในปีพ.ศ. 2550 ว่าการหาว อาจเกี่ยวข้องการควบคุมอุณหภูมิของสมอง โดยพบว่าสมองจะทำงานได้ดีในช่วงอุณหภูมิที่เป็นช่วงไม่กว้าง การหาวจะทำให้อุณหภูมิของสมองเย็นขึ้นซึ่งทำให้เหมาะสมกับการทำงานของสมองและพบว่าเมื่อเอา cold pack วางที่หน้าผากสักระยะผู้ถูกศึกษาจะไม่ค่อยหาว
4. และการหาวอาจเกิดมาจากการควบคุมของสารในสมองกลุ่มสารสื่อประสาท (neurotransmitter) และฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องหลายชนิด เช่น โดปามีน (Dopamine) กลูตาเมท (Glutamate) อะซีติลโคลีน (Acetylcholine) เอซีทีเอช (ACTH) และออกซีโตซินเปปไทด์ (Oxytocin peptide) ซึ่งจะส่งผลต่อสมองส่วนไฮโปธาลามัส (Hypothalamus) ผ่านไปที่สมองส่วน ฮิปโปแคมปัส (Hippo campus) พอนส์ (Pons) และเมดูลาออบลองกาตา (Medulla oblongata) และทำให้เกิดการหาวขึ้น
การหาวจากการควบคุมของสารในสมอง และฮอร์โมน
ทำไมเห็นคนหาวแล้วหาวตามกันได้ ?
คนสนิทกันยิ่งหาวตามกันได้มากกว่าคนแปลกหน้า?
  สาเหตุของการหาวตามกัน (contagious yawn) อาจจะเป็นพฤติกรรมทางสังคมของทั้งคนและสัตว์ เป็นเรื่องของการแสดงความเห็นอกเห็นใจ (เช่นเดียวกับคนที่ไม่รู้จักน้ำตาไหลเพราะอะไรก็ตาม เป็นจำนวนเยอะ สักครู่เราก็มีน้ำตาไหลตามได้ด้วย)

  ารที่คนหนึ่งหาวและอีกหลายๆคนหาวตามนั้น เชื่อว่าเป็นเรื่องของจิตวิทยาที่มีการเริ่ม ทำอะไรอย่างหนึ่ง และจะมีคนที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆทำตาม โดยเป็นพฤติกรรมอย่างหนึ่งของมนุษย์ ดังจะเห็นได้จากละครตลกที่ดูในทีวี จะมีการใส่เสียงหัวเราะเข้าไปในละคร เพื่อเป็นการกระตุ้นให้คนดูเกิดการคล้อยตามว่าละครสนุกจริงๆ

มีการศึกษาในปีพ.ศ. 2550 (7 ปีที่แล้ว) พบว่าในกลุ่มเด็กออทิสติกซึ่งมีปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมการรวมกลุ่มจะไม่ค่อยหาว เมื่อให้ดูวิดิโอที่มีคนหาวกันเยอะๆซึ่งแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับเด็กโดยทั่วไป
         ในลิงชิมแพนซี และในสุนัข ก็มีการหาวตามกันแบบคนได้ และมีการศึกษาพบว่ามีการหาวตามกันในสัตว์ต่างชนิดกันได้ด้วย เช่นการศึกษาของมหาวิทยาลัยลอนดอน ในประเทศอังกฤษ พบว่ามีการส่งต่อการหาวจากคนไปสู่สุนัขได้ด้วย ไม่เฉพาะการหาวเท่านั้น
สุนัขดังกล่าวก็ต่างดูง่วงและหลับไปได้ในที่สุด ... 
    นักวิทยาศาสตร์ได้อธิบายเหตุผลของพฤติกรรมการหาวติดต่อกันนี้ว่า เกิดจากระดับความสามารถในการเข้าใจแบบหยั่งรู้ถึงความรู้สึกและอารมณ์ของผู้อื่น หรือที่เรียกว่า Empathy ส่งผลทำให้เกิดการแสดงออกร่วมกันกับผู้อื่นซึ่งผู้ที่มีระดับของ Empathy สูงจะมีโอกาสหาวตามเมื่อเห็นผู้อื่นหาวมากกว่าผู้ที่มีระดับ Empathy ต่ำ
ทำไมเวลาหาวมากๆจึงน้ำตาไหล?
     เพราะเวลาหาวมักมีการหลับตา หาวรุนแรงมักหลับตาปี๋ จะมีผลในการบีบต่อมน้ำตา(อยู่หนังตาบน) ปกติก็จะไหลออกทางรูระบายที่หัวตา (รูเล็กที่หัวตาที่หนังตาล่าง) เมื่อหาวแล้วหลับตาปี๋ รูก็จะเล็กลงชั่วขณะ น้ำตาก็ไม่สามารถระบายออกได้ ก็จะพบว่าหาวแล้วมีน้ำตาไหลเป็นเรื่องปกติ

ความเชื่อเกี่ยวกับการหาว ?
     ฝรั่งในสมัยโบราณเชื่อว่า การหาวทำให้วิญญาณออกจากร่าง ดังนั้นเวลาหาวจึงต้องเอามือปิดปากไว้ เพื่อไม่ให้วิญญาณหนีไปความเชื่อนี้มีที่มาจาก ในสมัยก่อนเด็กเกิดใหม่มักจะเสียชีวิตเพราะวิทยาการทางการแพทย์ยังไม่เจริญก้าวหน้า เมื่อสังเกตเห็นเด็กหาวทันทีที่เกิด จึงเข้าใจว่าการหาวทำให้เสียชีวิต
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ หาวปิดปาก

ที่มาภาพ : https://health.mthai.com/howto/health-care/17015.html
      ในสมัยนั้นจึงมีคำแนะนำให้แม่นั่งเฝ้าลูกน้อยเป็นพิเศษในช่วงเดือนแรกๆ หลังคลอด เพื่อคอยปิดปากลูกเวลาหาว เพราะเด็กยังปิดปากตัวเองไม่ได้ ความเชื่อดังกล่าวจึงกลายมาเป็นมารยาทในการหาวจนถึงปัจจุบัน มารยาทอีกอย่างหนึ่งของการหาวที่อาจพบเห็นได้ ก็คือ การหันหน้าไปทางอื่น หรือแม้แต่การกล่าวคำขอโทษออกมาหลังจากหาว
ที่มาของเรื่องนี้ก็คือ เมื่อคนสมัยโบราณสังเกตเห็นว่าเมื่อคนหนึ่งหาว คนที่อยู่ใกล้ๆ ก็มักจะหาวตามกัน ดังนั้นหากการหาวเป็นอันตรายต่อผู้หาว อันตรายนี้ย่อมติดไปถึงผู้อื่นด้วย เวลาหาวจึงหันหน้าหนีเพื่อไม่ให้คนอื่นเห็น ส่วนการขอโทษก็เป็นเสมือนการแสดงความเป็นมิตรกับยมทูตที่จะมาพรากวิญญาณไปนั่นเอง
หาวแบบผิดปกติ ?

การหาวเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกาย  ยกเว้นว่าจะมีปริมาณของการหาวมากผิดปกติ  เช่น  หาวเกิน 30 ครั้งต่อวัน  ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกาย  เนื่องจากอาจมีความผิดเกี่ยวกับระบบการนอนหลับหรือระบบหายใจ  และเพื่อสุขภาพที่ดีของร่างกายเรา  ควรดูแลสุขภาพด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ  และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ  หลีกเลี่ยงความเครียดและอยู่การอยู่ในสถานที่ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก  ก็อาจทำให้อาการหาวลดลงบ้าง

ป้องกันการหาว ?

การป้องกันการหาวให้เต็มร้อยยังเป็นไปไม่ได้ เพราะยังไม่ทราบกลไกการเกิดที่ชัดเจน แต่โดยทั่วไปที่พอป้องกันการหาวได้ คือ ต้องทำตัวให้สดชื่น ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ อยู่ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ร้อนอับชื้น ออกกำลังกายสม่ำเสมอทุกวันตามควรกับสุขภาพ และพักผ่อนให้เพียงพอ

การหาวไม่ได้เป็นปฏิกิริยาที่ร่างกายแสดงออกเพื่อเตรียมพร้อมจะนอนหลับหรือต้องการพักผ่อน
แต่เป็นปฏิกิริยาที่แสดงออกว่าร่างกายพร้อมที่จะตื่นตัว
ไม่มีผลเสียต่อสุขภาพ และอาจไม่ได้สื่อถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง
แต่ถ้าเรามีอาการหาวมากๆ และติดต่อกัน ร่วมกับมีอาการง่วงนอนมากผิดปกติ เฉื่อยชาลง ก็ควรต้องพบแพทย์

ทำไมเราจึงหาวตามๆ กัน ??

ขอบคุณคลิปจาก : https://www.youtube.com/watch?v=ToRfJZ2fnLw




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

LGBT ความหลากหลายทางเพศ

เมื่อพูดถึงเพศทางเลือกแล้ว ในต่างประเทศจะมีตัวอักษรย่อของกลุ่มเพศทางเลือกว่า  LGBT  ซึ่ง  LGBT  คืออะไรบ้าง วันนี้เราจะมาอธิบายคร่าวๆ เพื่อเ...